ชาวบ้านเอือมระอา แม่ชีกินเหล้าขาวด่ากราดทั่ว วอนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ
กรณีมีคลิปแม่ชีมาดื่มเหล้าตรงป้ายรอรถหน้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ข้างวัดป่าโยธาประสิทธิ์ เป็นประจำและชอบขอเงินชาวบ้าน ถ้าใครไม่ไห้ก็จะด่ากราดทันที ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อแม่ชีนาง สังกัดวัดวัดป่าโยธาประสิทธิ์ ชาวบ้านที่ผ่านไปมาจะเห็นแม่ชีคนนี้กินเหล้าขาวแล้วด่าคนที่มารอรถหรือคนที่ผ่านไปมาเป็นประจำจน ชาวบ้านรู้สึกเอือมระอาเป็นอย่างมาก จึงอยากให้ทางวัดหรือทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการหน่อย เพราะว่าจะทำให้ศาสนาพุทธมัวหมอง และดูไม่เหมาะสม แม่ชีคนจะนำเงินที่ได้จากชาวบ้านมาซื้อเหล้าดื่มแบบนี้เป็นประจำ
ชาวบ้าน ”ไม่ประสงค์ออกนาม” ยังบอกต่ออีกว่า ได้แจ้งไปทางวัดหลายรอบแล้วแต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร และอีกอย่างที่ชาวบ้านยังข้องใจ ไม่ทราบว่าแม่ชีคนนี้ไปซื้อเหล้ามาจากร้านไหนแล้วทำไมร้านค้าถึงขายให้และอีกอย่างยังไม่ถึงเวลาขายด้วย ร้านค้าต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ชาวบ้านจึงอยากให้ ทีม ”ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบจังหวัดสุรินทร์ (คอส.)” ให้ดำเนินคดีเอาผิดร้านค้าที่ขายด้วย ที่จำหน่ายแอลกอฮอล์นอกเวลาการขายและไม่สมควรขายให้กับแม่ชีคนนี้ด้วยเพราะแกก็แก่มากแล้ว
ันนี้(5 มิ.ย.2563) ทีมข่าวลงพื้นที่คลิปแม่ชีมาดื่มเหล้าตรงป้ายรอรถหน้า ได้พบกับแม่ค้าขายหมูปิ้งที่ศาลารอรถโดยสาร ทราบชื่อว่ายายนาง ได้แต่งชุดห่มขาวคล้ายแม่ชีที่วัดป่าโยธาประสิทธิ์ ถนนสุรินทร์-ปราสาท ยายนางไม่ใช่แม่ชี เพียงแต่แกติดเหล้าลักษณะแกเป็นผู้ป่วยจิตเวช ถ้าแกสติดี ๆ แกจะหิ้วยาเต็มตะกร้า และถ้าใครไม่ไปยุ่งกับแก ๆ จะไม่ตะโกนด่า แกจะนั่งเมาและพูด บ่น พร่ำเพ้อ ตลอดเวลา ตำรวจและพยาบาล ก็ได้นำตัวแกไป ต่อมาก็นำมาส่งที่วัดเหมือนเดิม
แม่ชีภายในวัดป่าโยธาประสิทธิ์ ได้กล่าว่า ยายนางแกมีลูกหลานเป็นคนมีเงินทอง แต่ก็มาปล่อยแกไว้ที่วัด แรก ๆ ที่มาแกมาขอบวชชี ตาแกทำการปฏิบัติเหมือนแม่ชีคนอื่นไม่ได้ แกชอบมักจะดื่มสุราตลอดเวลาและถ้าได้เมาก็จะนั่งพูด พร่ำเพ้อคนเดียว บางครั้งก็จะเดินแก้ผ้าไปมารอบวัด บรรดาแม่ชีที่เห็นก็จะหาผ้ามาห่มให้แก ในส่วนของยายนางนั้น เวลานอนก็จะไปนอนที่ศาลา แม่ชีได้ยืนยันว่ายายมานั้นไม่ได้เป็นแม่ชีแต่อย่างใด จนหลวงพ่อไม่รู้จะทำยังไง ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ส่วนญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด ก็เป็นปกติไปแล้วไม่ถือสายายนางอีกด้วย
ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์