เมืองพัทยา และบางละมุง ชลบุรี ลุกเป็นไฟ บุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อนร้านอาหาร สถานบันเทิง
เมืองพัทยาลุกเป็นไฟ ร้านอาหาร สถานบันเทิง ไม่สงบ เจอข้อเรียกร้องให้ ตำรวจพัทยา บางละมุง นายอำเภอ ผบก.จว.ชลบุรี และ ผบช.ภ.2 ตรวจสอบด่วน “ใครอยู่เบื้องหลังนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า”นำมาแพร่ระบาด มอมเมาเยาวชนเมืองท่องเที่ยวชื่อดังติดระดับโลก หาซื้อได้ง่ายตามตลาดนัดพื้นที่ จว.ชลบุรี
เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2564 สื่อมวลชนได้รับการร้องเรียน และร้องทุกข์ว่า บุตร หลาน ได้ซื้อบุหรี่ไฟฟ้า และน้ำยาที่มีอันตรายต่อร่างกายมาสูบกันเป็นจำนวนมาก เหล่าผู้ปกครอง ญาติ มิตร ไม่เห็นด้วย และไม่สนับสนุนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้า อีกทั้งมีราคาแพง ได้เคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เคยได้รับการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการวางจำหน่ายทั่วไปตามตลาดนัด และร้านอาหารหลายร้านในเขตเมืองพัทยา และเขตบางละมุง จ.ชลบุรี ที่มีสถานบริการ ร้านอาหารรูปแบบต่าง ๆ จำนวนมาก ได้มีผู้มีอิทธิพล นำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เข้ามาจำหน่ายในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินการจับกุม ปล่อยให้มีการขาย และสูบกันอย่างอิสรเสรี
และล่าสุด ได้มีกลุ่มสื่อมวลชนที่ได้รับการร้องเรียน และกดดันจากชาวบ้าน ที่ทนไม่ไหวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ได้ช่วยกันผลิตสื่อเรียกร้องแทนชาวบ้านเพื่อขอให้ นายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุงท่านใหม่ พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง รักษาราชการแทน ผบก.จว.ชลบุรี และผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 ดำเนินการจับกุม ดำเนินคดี กับผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง ที่นำบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายมาจำหน่วยให้ลูกค้า และปล่อยปะละเลยให้ลูกค้านำบุหรี่ไฟฟ้ามาสูบในสถานที่ที่รับผิดชอบ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และมีกฎหมายควบคุมอย่างเด็ดขาด เริ่มตั้งแต่การห้ามนำเข้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า เป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ถ้าผู้ที่ฝ่าฝืนลักลอบนำเข้าจะต้องรับโทษ จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับเป็นเงิน 5 เท่า ของสินค้าหรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงให้ยึดสินค้า และพาหนะที่ใช้ในการบรรทุกสินค้านั้นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นสินค้าที่ห้ามขาย หรือให้บริการ ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ซึ่งกำหนดโทษสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทั่วไป ให้จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ที่กระทำผิด เป็นผู้ประกอบธุรกิจในฐานะผู้ผลิต ผู้สั่ง หรือผู้ที่นำเข้ามาเพื่อขายต้องรับโทษเพิ่มสูงขึ้น เป็นจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งมีโทษหนักแต่ก็ยังมีนักธุรกิจนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้ามาจำหน่วยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเมืองพัทยา และอำเภอบางละมุง ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีการจับกุมกันหลายครั้งแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ข้อสงสัย มีข้อครหาว่าทำไมบุหรี่ไฟฟ้าจึงมีวางจำหน่วยทั่วไป แม้กระทั่งตลาดนัดทั่วไปในจังหวัดชลบุรี โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครอง ไปจับกุม
ทีมข่าวเฉพาะกิจ ภาคตะวันออก รายงาน