กองทัพเรือเรียกคืน ที่ดินทรงสงวนในส่วน ที่มีข้อพิพาทคืน แก้ปัญหาขัดแย้งรัฐ -ราษฎร
ปัญหาขัดแย้ง ข้อพิพาทที่ดินทรงสงวนพื้นที่สัตหีบ ระหว่างรัฐ กับราษฎร ยืดเยื้อ เกรงจะเกิดการเผชิญหน้ารุนแรง กองทัพเรือรับบทพระเอกขี่ม้าขาว เรียกคืนที่ดินเขาเปล้าคืน เข้าสู่การตรวจสอบเอกสาร พิสูจน์สิทธิ์ ทุกฝ่ายต้องรอเวลา ยอมรับการตัดสินของกระบวนการยุติธรรมเป็นที่สิ้นสุด
เรื่องนี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2564 ฝ่ายทหารเรือสังกัดฐานทัพเรือสัตหีบ นำโดย นาวาเอก เฉลิมพร คล้ายทอง ผู้อำนวยการ กองอสังหาริมทรัพย์ พร้อมด้วยปลัดอำเภอสัตหีบ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาสัตหีบ ปลัดและเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเขาชีจรรย์ แต่ยังขาดเจ้าหน้าที่จากโครงการป่าสิริเจริญวรรษ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9(ชลบุรี) ที่ไม่ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาร่วมตรวจสอบ และสำรวจแนวเขต ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายทหารจะได้เดินทางไปทำความเข้าใจกับหน่วยงานภาครัฐ ที่ไม่ได้เข้าร่วมสำรวจ และประชุมข้อสรุปเพื่อให้ทราบแนวทางการปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาว่าขณะนี้ ฐานทัพเรือสัตหีบ กองทัพเรือ ได้เรียกคืนที่ดิน ที่กำลังเกิดข้อพิพาทกับประชาชนคืน พร้อมกั้นแนวเขตไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้าไปดำเนินกิจกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น จนกว่าเรื่องนี้จะได้รับการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรม
นาวาเอก เฉลิมพร คล้ายทอง ผอ.กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา ให้นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย เจ้าหน้าที่กั้นแนวเขต พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้ามาในพื้นที่เขาเปล้า ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเกิดข้อพิพาทระหว่างรัฐ และราษฎร เนื่องจากได้มีผู้ร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภาฯ เพื่อขอความเป็นธรรมและให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขอให้ กองทัพเรือ เพิกถอนใบอนุญาต การให้ใช้พื้นที่ทรงสงวน โครงการป่าสิริเจริญวรรษ บริเวณเขาเปล้า ต.นาจอมเทียน จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งต่อมาได้มีการประชุมร่วมกันหลายฝ่าย ทางด้านคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ฯ ได้ขออนุญาตจับจองทำประโยชน์ที่ดินในเขตทรงสงวน บริเวณเขาเปล้า เนื้อที่ทั้งหมด 1,873 ไร่ โดยใช้แผนที่แสดงแนวเขตพื้นที่โดรงการป่าสิริเจริญวรรษ ที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่2 ฯได้จัดทำขึ้นฝ่ายเดียว โดยไม่มีการเดินสำรวจ และประกาศให้ผู้ครอบครองที่ดินข้างเคียงมาระวังแนวเขต ก่อให้เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนกับผู้ครอบครองที่ดิน จึงขอให้กองทัพเรือ ในฐานะเป็นผู้มีอำนาจอนุญาตให้ราษฎรเข้าไปครอบครองที่ดินในเขตทรงสงวนตามพระบรมราชโองการ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 6) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสำรวจและจัดทำแผนที่แสดงแนวเขตพื้นที่โครงการป่าสิริเจริญวรรษ โดยให้ราษฎรที่มีส่วนได้เสียเข้าร่วมสำรวจ และระวังชี้แนวเขตที่ดินครอบครองของตนเองด้วย
นาวาเอก เฉลิมพร ยังได้กล่าวอีกว่า การมาสำรวจ ไม่ใช่การมาชี้แนวเขตว่าพื้นที่พิพาทแห่งนี้เป็นของผู้ใดที่จะสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ต่อไปอีกได้ เป็นเพียงกันกั้นแนวเขตในพื้นที่ที่เกิดข้อพิพาทระหว่างภาครัฐ กับประชาชน และไม่อนุญาตให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเข้ามาใช้ประโยชน์ เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาความรุนแรงระหว่าง 2 ฝ่าย เพราะที่ผ่านมาได้เกิดข้อพิพาทจำนวนหลายครั้ง ส่งผลให้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องต้องมีคดี และเกิดมลทิน กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบ เกรงว่าจะเกิดความรุนแรง อีกทั้งการเผชิญหน้ากัน จึงได้ขอกั้นแนวเขตพื้นที่ไว้ก่อน จนกว่าจะได้การพิสูจน์ทราบในเรื่องของเอกสาร พยานบุคคล ซึ่งทุกฝ่ายต้องยอมรับการตัดสินของกระบวนการยุติธรรม อันจะเป็นที่สิ้นสุดของปัญหานี้
พัชรพล -ณัฐภูมิทร์ ปานรักษ์