อุดรธานี-เตรียมรับเมือประชาชนกลับบ้าน 1,200 คน ระดมทุนหาเงินซื้อเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ ขยายเวลางดการเรียนหนังสือที่โรงเรียนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ชั้น 5 อาคาร 1 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี เพื่อพิจารณามาตรการของ จ.อุดรธานี หลังจาก ศบค.มีคำสั่งเพิ่มมาตรการไปแล้ว โดยอุดรธานีถูกเพิ่มระดับ จากพื้นที่สีเหลืองเป็นสีส้ม หลายเรื่องอุดรฯดำเนินการไปแล้ว ยังคงมาตรการนั้นต่อ ขณะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น จึงเสนอให้มีการเพิ่มมาตรการ
นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี รายงานว่า อุดรธานีมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ตั้งแต่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีคำสั่งปิดแคมป์คนงาน ต่อเนื่องกับภาวะเตียงผู้ป่วยเต็ม ทำให้มีผู้เดินทางกลับอุดรฯมาก มาตรการสกัดเชื้อโควิดเข้าพื้นที่ ทำให้ค้นพบผู้ป่วยจากพื้นที่เสี่ยง 319 ราย ในจำนวนนี้มีผลตรวจเชื้อแล้ว ต้องการมารักษาที่อุดรธานี ทั้งหมดส่งเข้ารักษาตัวใน รพ. และมีผู้ต้องกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้กว่า 3,000 คน แต่ก็ยังมีบางส่วนไม่ผ่านคัดกรอง นำเชื้อไปแพร่ในครอบครัวและคนใกล้ชิด
นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ ผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด สถานการณ์จึงยังไม่น่าไว้วางใจ อาทิ คลัสเตอร์สถานดูแลผู้สูงอายุ หรือเนอร์สซิ่งโฮม ที่ยังไม่รู้ระยะเวลาและแหล่งที่มาของเชื้อ จน รพ.อุดรธานีรับรักษาผู้ป่วย 2 ราย และต้องเสียชีวิตในที่สุด การสอบสวนมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ในสถานที่เดียวกัน คือ คนชรา-ผู้ป่วยติดเตียง 12 ราย และผู้ดูแลอีก 8 ราย เมื่อตรวจเชื้อทั้งหมดพบติดโควิด-19 และบุคลากร รพ.ศูนย์อุดรธานี ต้องกักตัว 27 คน และคลัสเตอร์แคมป์นักบาสเยาวชน มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 29 ราย แยกเป็น นักกีฬาที่ยังอยู่อุดรธานี 18 ราย , นักกีฬาที่เดินทางไปต่างจังหวัด 2 ราย , ญาติพี่น้องนักกีฬาและครู 9 ราย
คณะกรรมการโรคติดต่ออุดรธานีมีมติ 1. ขยายเวลางดการเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนต่อไปจนถึง สิ้นเดือนกรกฎาคม , 2. งดการทำกิจกรรมร่วมกันตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป และให้คุมใช้มาตรการเข้มข้น , 3. งดกิจกรรมส่งเสริมการขายในห้างสรรพสินค้า , 4. จำกัดจำนวนผู้เล่นกีฬา , จำกัดจำนวนผู้ชมกีฬา และควบคุมมาตรการของแคมป์นักกีฬา (ห้ามบุคคลภายนอก) และ 4. ปิดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ ไม่ให้รับผู้สูงอายุเข้าเพิ่มเติม , งดให้ญาติเข้าเยี่ยม , ห้ามบุคคลภายนอกเข้าออก ซึ่งมีใบอนุญาตอยู่ 6 แห่ง ส่วนใหญ่ดูแลผู้ป่วยติดเตียง และตรวจสอบที่ไม่มีใบอนุญาต เพื่อเข้าควบคุมกำกับดูแล
ในส่วนของค่ายฝึกสอนนักกีฬา โรงเรียนต้องรับเด็กเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเด็กไว้ที่ไหน ก็ต้องกำหนดมาตรการเข้มงด ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่มีอยู่แล้ว ส่วนสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยติดเตียง รพ.ศูนย์อุดรธานี รับคนทั้งหมดมารักษาแล้ว ส่วนสถานที่อื่นสาธารณสุขจะไปดูแล รวมไปถึงกลุ่มผู้ป่วยติดเตียง สาธารณสุขมีความเห็น เร่งรัดการจัดทีมไปฉีดวัคซีนให้
ทั้งนี้ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.อุดรธานี มีนายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ผู้ว่าฯได้หารือกับรองผู้ว่าฯ , สาธารณสุขจังหวัด , ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี , ภาคเอกชน และอีกหลายๆท่าน มีอยู่หลายเรื่องอยากให้คณะกรรมการฯได้รับทราบ บางเรื่องอยากจะขอรับฟังความคิดเห็น เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยขอให้ผู้ที่ได้ร่วมหารือชี้แจง
เรื่องเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ พญ.ฤทัย วรรธนวินิจ ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี อธิบายว่า ผู้ป่วยโควิดมีจำนวนมากขึ้น และอาการมีความรุนแรงกว่าเดิม ผู้ป่วยต้องการออกซิเจนมากขึ้น ขณะนี้ รพ.ศูนย์กำลังเพิ่มเตียงโควิดเป็น 200 เตียง และเตรียมเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ (Oxygen High Flow) ปัจจุบันบันเรามีอยู่ 40 เครื่อง ได้สั่งจองไปอีก 10 เครื่องๆละ 250,000 บาท โดยรวบรวมเงินบริจาคโรงพยาบาล และจากคณะแพทย์-พยาบาล สามารถจัดหาได้แล้ว 7 เครื่อง เมื่อท่านผู้ว่าฯรับจะมาช่วย นำทีมเชิญชวนสมทบทุนจัดซื้อ ซึ่งตอนนี้ยังพอมีของอยู่ ต่อไปอาจจะขาดแคลน ก็สั่งจองไปเพิ่มอีก 5 เครื่อง
จากบทเรียนที่เราพบ มีผู้ป่วยโควิดที่อยู่กรุงเทพฯ ยังไม่ได้รับการรักษาในระบบ ทำให้ผู้ป่วยหลายคนอาการรุนแรง บางคนเดินทางกลับมาบ้าน แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ หลายคนกว่าจะมาถึงอุดรฯก็หนักแล้ว ปอดถูกทำลายไปบ้างแล้ว ถ้าผู้ป่วยเดินทางมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เราจะสามารถช่วยเขาได้มาก อุดรธานีก็มีความพร้อม ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ , โรงพยาบาลชุมชน , โรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง ยืนยันว่าอุดรธานีมีศักยภาพ รองรับผู้ป่วยได้เพิ่มอีก
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี กล่าวว่า ในการจัดซื้อทางส่วนราชการต่างๆก็แสดงเจตนา ที่จะเจียดเงินเดือนตัวเองมาช่วย ขณะหลายคนรู้ข่าวก็แจ้งมาเรื่อย ๆ เมื่อสอบถาม ผอ.รพ.ศูนย์ฯ รู้ว่าเครื่องนี้ใช้กับคนไข้ทุกประเภท แม้จะไม่มีโควิดแล้วก็ใช้ได้อยู่จึงได้มอบหมายให้ทาง ผอ.รพ.ศูนย์ฯ สั่งซื้อเครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ เบื้องต้นไว้ทั้งหมด 20 เครื่อง โดยประมาณสัปดาห์หน้าจะมีการส่งมอบกัน
นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์ว่า ในกรุงเทพและปริมณฑล มีลักษณะการล๊อคดาวพื้นที่ ซึ่งทางเราเชื้อว่ามีพี่น้องชาวอุดรธานีจำนวนมาก ที่เดือดร้อนและไม่มีที่ไป ทั้งเรื่องการตรวจการรักษา วันนี้จึงได้นำเรื่องนี้เข้าปรึกษาคณะกรรมการโรคติดต่อ มีความเห็นร่วมกันว่า เราจะรับพี่น้องชาวอุดรธานีกลับบ้าน เบื้องต้นเป้าหมาย 10 วัน วันละ 120 คน รวม 1,200 คน เริ่มทันทีในต้นสัปดาห์ ด้วยรถบัสมีหน้าต่าง-เปิดพัดลม-นั่งห่างๆ 4 คันๆละ 30 คน เดินทางแบบระบบปิดจาก กทม.-อุดรธานี แยกผู้ติดเชื้อ-ไม่ติดเชื้อ เข้าสู่ระบบที่ทำอยู่แล้วขณะนี้ คือ คัดกรอง-ตรวจหาเชื้อ-พบเชื้อนำเข้ารักษาใน รพ.-ไม่พบเชื้อนำมากักตัวที่รัฐจัดให้ 14 วัน ผู้ต้องการกลับบ้านแจ้งลงทะเบียน ตามหมายเลขโทรฯของอำเภอภูมิลำเนาตัวเอง ที่อุดรฯแจกจ่ายไปก่อนนี้ โดยการรับกลับมาจะเป็นแบบระบบปิด ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง จะมีการดูแลไม่ให้ประปน จนมีความเสี่ยงกับพื้นที่อื่น ๆ
ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ ในการส่งรถไปรับคนกลับมา ซึ่งพี่น้องประชาชนที่เดือนร้อนในกรุงเทพและปริมณฑล ให้ติดต่อกับทางอำเภอซึ่งทางจังหวัดได้แจ้งหมายเลขไว้กับเว็ปไซ อุดรปลอดภัย ซึ่งเรารับทั้งผู้ป่วยไม่มีที่รักษา และผู้ที่มีความเสี่ยง และต้องกลับภูมิลำเนา คือจังหวัดอุดรธานีที่บ้านของทุกท่าน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการให้เร็วที่สุด.
ภาพ-ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี