สุรินทร์-นอภ.รัตนบุรี รุดตรวจสอบพื้นที่ถูกนายทุนรุกทำท่าทราย พร้อมสร้างถนนในที่สาธารณ หลัง สส.นำชาวบ้านบุกร้องเอาผิด
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2564 เวลา 10.00 น. หลังจาก สส.ในเขตพื้นที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านตำบลกุดขาคีม อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ว่าได้ถูกนายทุนรายหนึ่งจากจังหวัดร้อยเอ็ดเข้ามาดูดทราย สร้างถนน สร้างอาคารถาวรในเขตพื้นที่สาธารณ พร้อมนำรถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกทรายวิ่งในเขตพื้นที่ตำบลกุดขาคีม สร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน ถนนเสียหายเป็นจำนวนมาก ชาวบ้านเคยร้องไปหลายหน่วยงานแต่เรื่องก็เงียบหาย
หลังจากนายคเนศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี ได้รับเรื่องไม่นิ่งใจนอนใจ ได้รายงานให้จังหวัดทราบ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทันที ประกอบด้วยนายอำเภอรัตนบุรี เป็นประธาน ผอ.สำนักงานกรมเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครราชสีมา เป็นคณะทำงาน ผอ.ศูนย์ป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ คณะทำงาน สปก.สุรินทร์คณะทำงาน เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์(สาขารัตนบุรี) คณะทำงาน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุดขาคีม เป็นคณะทำงาน ปลัดอำเภอผู้ประสานงานตำบลกุดขาคีม คณะทำงาน หัวหน้าฝ่ายรางวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์(สาขารัตนบุรี) เป็นคณะทำงาน เมื่อคณะทำงานพร้อมนายอำเภอได้เชิญเข้าห้องประชุมเพื่อ ขอทราบในหลักฐานและรายละเอียดว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นของหน่วยงานใดรับผิดชอบ ซึ่ง สปก.จังหวัดสุรินทร์ ได้ชี้แจงว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ สปก.แต่อย่างใด ซึ่ง สนง.ป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ ได้นำหลักฐานและแผนที่ประกอบชี้แจงว่าพื้นที่นี้อยู่ในเขตป่าไม้จริง หัวหน้ารางวัด สำนักงานที่ดินจังหวัดสุรินทร์(สาขารัตนบุรี) ได้ชี้แจงพร้อมนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาแสดงต่อที่ประชุมว่าพื้นที่แห่งนี้ตามเอกสารที่มีสำเนาบัญชีสาธารณประโยชน์ชื่อทุ่งกุดขาคีมทำเลเลี้ยงสัตว์ ตั้งอยู่บ้านลำเพิญ ตำบลกุดขาคีม หวงห้ามไว้ตั้งแต่ปี 2467 ส่วนขอบเขตยังไม่แน่ชัด ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมหาข้อมูลเพิ่มจากผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
ต่อมา เวลา 13.30 น.ในวันเดียวกัน นายคเนศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี ได้นัดหมายคณะทำงานลงพื้นที่ซึ่งลำน้ำมูลน้ำได้เพิ่มระดับขึ้นมาก จึงได้เดินทางไปทางเรือระยะทางกว่า 3 กม. พบเป็นอาคารและสิ่งปลูกสร้างมองเห็นแต่หลังคาเท่านั้น ส่วนถนนที่ได้รับการร้องเรียนถูกน้ำท่วมจึงไม่สามารถมองเห็นได้
นายคเนศวร เกษอินทร์ นายอำเภอรัตนบุรี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องที่ชาวบ้านร้องเรียนกรณีมีนายทุนบุกรุกที่สาธารณดังกล่าวนี้ หากผู้ถูกกล่าวหามีหลักฐานแสดงสิทธิมาอ้างอิงตนก็พร้อมจะให้ความเป็นธรรม เท่าที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้นก็พอทราบแล้วว่าที่แห่งนี้เป็นที่ป่าไม้ชัดเจน ในส่วนจะเป็นที่ทุ่งสงวนเลี้ยงสัตว์หรือไม่ต้องรอพยานหลักฐานอีกครั้งหนึ่ง ตนขอรับรองว่าเรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก.
ภาพ-ข่าว สุรเดช เหลาคำ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์
