เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหญิงวัย 52 ป่วยจิตเวช ชอบทำร้ายร่างกายแม่วัย 91 พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือหญิงวัย 52 ป่วยจิตเวช ชอบทำร้ายร่างกายแม่วัย 91 พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พม. ตำรวจ สาธารณสุข อบต. ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันรวบตัวหญิงวัย 52 ปีที่มีอาการป่วยจิตเวช และชอบใช้ไม้และมีดทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว รวมถึงแม่วัย 91 ปีที่อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่ อสม.เห็นพฤติกรรมเกรงจะเป็นอันตรายกับคนในครอบครัว จึงช่วยกันพาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่กว่าจะพาตัวขึ้นรถได้เล่นซะเหนื่อย


เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งนำโดย ว่าที่ร้อยตรี ศิริพงษ์ โภคินวงศ์หิรัญ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงาน พม. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งนำโดย นายพรเทพ อาจบัณฑิตกุล , นายธนดล จิราภรณ์ ปลัดอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา นายวิรัตน์ ศรีอุไร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนครเนื่องเขต เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ รพ.สต.นครเนื่องเขต และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.นครเนื่องเขต ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 11 หมู่ 11 ต.นครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา เพื่อเชิญตัวนางสุนันท์ ตันศิริ อายุ 52 ปี ซึ่งมีอาการป่วยทางจิตเวชไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร โดยก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ พม. ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่หมู่ 11 ว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีผู้ป่วยจิตเวชพักอาศัยอยู่กับมารดาอายุ 91 ปี และยังมีพี่สาวที่ป่วยเป็นจิตเวชอีก 1 คน โดยมีนางพยุง ตันศิริ อายุ 67 ปี

ซึ่งเป็นพี่สาวอีกคนคอยดูแลความเป็นอยู่ของทั้ง 3 คนในครอบครัวนี้ / ซึ่งทางด้านนางสุนันท์ ตันศิริ เมื่อก่อนเคยทำงานรับจ้างเป็นแม่บ้าน แต่ต่อมาเกิดอาการเครียดเรื่องครอบครัว เลยทำให้เกิดอาการจิตเวช ชอบพูดคนเดียว ขู่จะทำร้ายคนในครอบครัว และมีหลายครั้งที่ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน โดยจะใช้ไม้และมีดเป็นอาวุธ ด้านนางพยุง ตันศิริ ผู้เป็นพี่จึงเกรงว่าน้องสาวจะทำจริงเพราะมีอารมณ์แปรปรวนตลอดเวลา ประกอบกับในบ้านมีแต่ผู้สูงอายุที่เป็นหญิงทั้งหมด เลยเกรงจะไม่ปลอดภัยและอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยนำตัวนางสุนันท์ ตันศิริ ซึ่งเป็นน้องสาว เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพุทธโสธร เพื่อให้อาการดีขึ้น แต่ขณะเจ้าหน้าที่เข้าเชิญตัวนางสุนันท์ ได้พยายามขัดขืนและจะหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีการช่วยกันอุ้มไปขึ้นรถ ซึ่งกว่าจะพาตัวขึ้นรถได้สำเร็จ ต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่ / แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้วทางเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พาไปให้แพทย์วินิจฉัย โดยลงความเห็นว่าต้องให้นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง

…..สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม