ลมพัดกระโชกแรงและฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านเรือนประชาชน
ลมพัดกระโชกแรงและฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นไม้ล้มทับหลังคาบ้านเรือนประชาชน เสียหาย จำนวน 1 หลังคาเรือน บริเวณพื้นที่ริมปากแม่น้ำกระบุรี พื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลและแนวพรมแดน ไทย-เมียนมา
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ส่งผลให้พื้นที่จังหวัดระนอง มีลมพัดกระโชกแรงและมีฝนตกต่อเนื่อง ลมที่พัดแรงยังส่งผลให้ดินที่อ่อนตัว เกิดต้นไม้ยางพารา จำนวน 1 ต้น ต้านทานแรงลมไม่ไหว ล้มทับใส่บ้านเรือนประชาชน แถบเชิงเขาริมฝั่งปากแม่น้ำกระบุรี พื้นที่ติดกับชายฝั่งทะเลและแนวพรมแดน ไทย-เมียนมา เสียหายจำนวน 1 หลังคาเรือน คือที่บ้านเลขที่ 249 ม.3 บ้านหินช้าง ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง โครงไม้และหลังคากระเบื้องแตก ได้รับความเสียหายจำนวนร่วม 20 แผ่น
เทศบาลตำบลปากน้ำท่าเรือ ภายหลังจากได้รับแจ้ง ได้เร่งนำรถกระเช้าพร้อมคนงานเข้าทำการตัดต้นไม้ที่ล้มทับใส่หลังคาทันที โดยทางเทศบาลจะสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนประชาชน ครัวเรือนละ 2,000บาท ไว้จัดซื้อซื้อไม้โครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา มาทำการซ่อมแซมให้ทันที
น.ส.วรรณนิศา ยืนยง อายุ 34 ปี เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุได้นั่งล้อมวง ทำขนมกันอยู่ภายในบ้าน ทั้งตนเอง,แม่และลูก จำนวน 5 คน ทำขนมกันอยู่ พอเกิดลัดพัดแรงก่อนฝนมา ได้ยินเสียงต้นไม้เสียดสี ดังโกรกกราก แล้วล้มดังตึงใส่หลังคาบ้าน จากนั้นก็ลุกขึ้นวิ่งกันกระจาย จึงทราบว่าต้นยางล้มทับใส่หลังคาบ้าน
ทั้งนี้ สถานีตรวจอากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาระนอง ได้แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ ระวังอันตรายจากลมที่พัดกระโชกแรงและฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยงภัยไว้ด้วย รวมทั้งชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังคลื่มลมแรง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้
กฤษดา เอกวานิช ผู้สื่อข่าว จ.ระนอง