กล้องวงจรปิดจับภาพ หนุ่มเมาขี่รถจักรยานยนต์ปาขวดตลอดทางไปถูกชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ไม่พอตกเย็นกลับมาอีกรอบเย็นคว้ามีดไปไล่ฟันชาวบ้าน ก่อนจะรีบขี่รถรถหลบหนี
นี่คือภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถุกโพสต์โดยเพจเฟซบุ๊ค Social Hunter.2020 ได้โพสต์ว่า ” (3มิ.ย) วัยรุ่นชายเสื้อเทาขี่รถจักรยานยนต์มาปาหินใส่กลุ่มวัยรุ่นอยู่หน้าห้องพัก โดนแขนได้รับบาดเจ็บคนหนึ่ง (4 มิ.ย ) วัยรุ่นคนเดิม รอบนี้ขี่รถมาพร้อมพวกคนหนึ่ง ถือมีดยาวเข้ามาจะฟันคนในห้องพัก แต่ถูกกลุ่มวัยรุ่นในห้องพักใช้มีดฟันกลับจึงรีบขับรถออกมา ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบว่ามีเรื่องอาไรกันมาก่อน ทางกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ห้องพักได้เข้าแจ้งความแล้ว เหตุเกิดแถวย่านอุดมสุข จ.ชลบุรี ”โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้ง 2 รอบ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุเป็นห้องเช่าแถวเดียวสีฟ้า หมู่ 8 ตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พบนายภูธเนศ กำลังยิ่ง อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ได้ชี้จุดให้ผู้สื่อข่าวดูร่องรอยเศษขวดเหล้าแตก และโต๊ะนั่งหน้าห้อง โดยเปิดเผยว่า วันที่ 3 มิ.ย.ตนไปทำงาน มีพี่ชายและแฟนนั่งอยู่หน้าห้อง ผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียวแล้วเอาขวดขว้างลงพื้น 1 ครั้ง แล้วขี่รถจักรยานยนต์มาขว้างใส่พี่ชายตนได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้ายทำให้กระดูกบวม แล้วก็ขี่รถจักรยานยนต์หนีไป พี่ชายได้ไปแจ้งความและทำบาดแผล ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.ตำรวจได้มาดูที่เกิดเหตุ ตนก็พาไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุซึ่งอยู่คนละซอย แต่พอเห็นตำรวจก็วิ่งเข้าป่าไป แล้วเวลาประมาณ 1 ทุ่มวันที่ 4 มิ.ย. ผู้ก่อเหตุก็ขี่รถจักรยานยนต์มากับน้าและได้มาจอดรถหน้าห้อง หลังจากนั้นถือมีดขอตัดหญ้าเดินไปเคาะประตูห้อง ตามภาพจากกล้องวงจรปิดแต่ไม่มีใครเปิดออกมา ส่วนตนก็งงว่าทำไมทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนแต่ตนอยากให้เรื่องมันจบ ให้มาเคลียร์กันว่าพวกตนไปทำอะไรให้ไม่พอใจก็มาคุยตนและพี่ชายทำมาหากิน ไม่คิดจะเรื่องกับใครอยู่แล้ว
ทางด้านนายภาณุพงค์ ใยวรรณา อายุ 31 ปี เจ้าของร้านขายของชำที่ถูกปาขวดใส่ด้วยเปิดเผยว่าตนนั่งอยู่ในร้านของตนจู่ๆวัยรุ่นคนดังกล่าวก็ขี่รถจักรยานยนต์มาพอมาถึงหน้าร้านตนก็ได้ปาขวดใส่หน้าร้าน ตนก็ตกใจว่าทำไมทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตรวจสอบดำเนินการให้ด้วย เพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเพราะไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อนพอมามีเหตุการณ์นี้หลายๆคนที่พักอาศัยอยู่บริเวณนี้ก็รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
อำนาจ ลลิตลาวัณย์ (ชลบุรี)
