อีกราย ค้ำประกันซื้อรถยนต์ กลับถูกยึดบ้านยึดที่ ซ้ำถูกแจ้งจับบุกรุก

โผล่อีกราย ค้ำประกันซื้อรถยนต์ บ้านกำลังจะถูกยึด ก่อนทนายประมูลซื้อเอง 160,000 ขายคืน 870,000 ซ้ำถูกแจ้งจับบุกรุก

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2563 เพจคุณ”อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ” หรือ ยอด เจ้าของรหัสเรียกขาน “นคร45”หัวหน้ารถกู้ภัยและรองหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งการร้องเรียน จากคุณอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี ชาวบ้านม.4 ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี  ซึ่งได้โพสต์แจ้งขอความช่วยเหลือ จากกรณีไปคำประกันซื้อรถยนต์ แต่กลับถูกยึดบ้าน ก่อนทนายประมูลซื้อเอง 160000 ขายคืน 870,000 ซ้ำป้าถูกแจ้งจับบุกรุก โดยระบุข้อความ  

“คุณอัญวุฒิค่ะยายได้เห็นข่าวในเฟสเรื่องถูกยึดที่แล้วเขาได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมเขาติดต่อใครติดต่อทางใหนยายก้ไปไม่เป็นค่ะยายติดตามเฟสของคุณมาตลอดก็เลยตัดสินใจขอรบกวนผ่านทางคุณขอความเมตตาช่วยยายด้วยเถอะค่ะ

คือตอนนี้ยายถูกยึดบ้าน จากคดีค้ำประกันรถยนต์ให้กับคนที่เราไม่รู้จัก แต่ที่ค้ำให้เขาก็เพราะคนที่เรารู้จักและนับถือมาขอร้อง และเราก็ไม่เคยติดต่อกับคนที่ชื้อรถเลย มารู้อีกทีก็ตอนเกิดเรื่อง ว่าเขาได้คืนรถไปแล้ว และต้องเสียค่าส่วนต่าง เขาเงียบไปเลย มารู้อีกทีคือบ้านที่นำไปค้ำประกัน ไดถูกขายทอดตลาดแล้ว มีทนายประมูลได้ในราคา160,000 บาท  ทนายเอามาเสนอขายคืนในราคา 870,000 บาท

ยายทำอะไรไม่ถูกเลย ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาให้เวลายายย้ายออกภายในหนึ่งเดือนถ้าไม่ย้ายเขาจะแจ้งจับทุกคนในบ้าน จะให้ยายย้ายไปอยู่ใหนค่ะบ้านนี้อาศัยอยู่10 ชีวิตมีทั้งคนแก่ 87-77-60-และลูกๆหลานเพิ่ง 2 ขวบ ช่วยยายด้วยค่ะ.32.ม.4.ท่าคล้อ.อ.แก่งคอย.จ.สระบุรี.18110

จากการสอบถาม นางอำไพ โพธิประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า ทนายโทรมาวันนึงตั้ง 23 สาย แต่ป้าไม่อยากรับสายเพราะว่าป้าเป็นโรคหัวใจอยู่ ก็เลยไม่กล้ารับ เพราะว่าโทรมาแต่ละครั้ง ทนายไม่เคยพูดดีเลย ก็เลยไม่อยากจะรับ เขาโทรมาขู่ว่าป้าทำอย่างนี้ผมเสียหายนะ อ๊าว แล้วป้าไม่เสียหายหรือ ทนายบอกป้าเสียหายอะไร บ้านป้าก็ได้อยู่ฟรีแต่ตอนนี้มันเป็นบ้านของผมแล้ว บ้านป้าก็ไม่ใช่แล้ว ถ้าป้าจะอยู่ต่อป้าก็ต้องเสียค่าเช่าแล้ว เดือนละ 5,000 บาท จากนั้นทุกครั้งที่ทนายโทรมาป้าก็ไม่รับสายเลย เขาก็โทรมาอยู่เรื่อยๆแล้วเปลี่ยนมาเป็นคุยทางไลน์ ก็คุยเรื่องบ้านนั่นแหละข้อความไลน์เขาก็บอกว่าผมสงสารป้าอยู่แต่ตอนนี้ผมไม่สงสารแล้ว ผมจะไม่ลดให้แล้ว แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้ทนายก็โทรมาอีก บอกให้หาเงินสดมา เขาจะเอา 300,000 บาท เขาลดให้ 300,000 บาท แต่ต้องเป็นเงินสดและเร็ว เงินด่วน ถ้านานก็ไม่ได้ จากยอดเงินที่เขาลดให้แหลือ 600,000 บาท

ส่วนในเรื่องที่ค้ำประกันรถแล้วต้องสูญเสียบ้านเนี่ย ป้าก็มาคิดดูป้าไม่มีความผิดอะไรป้าต้องมาเสียบ้านหลังนี้ไป อะไรก็ไม่ได้สักอย่าง แต่ถ้าเป็นหนี้ที่ป้าก่อเองป้าจะไม่เสียใจเลย มันไม่ยุติธรรมกับป้าเลยส่วนคนชื่อต้าป้าก็พยายามพูดดีกับเขามาตลอดนะ ป้าขอให้เขามาช่วยป้าบ้าง แต่เขาก็บอกกับป้าว่าเขาจะช่วย แต่ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยช่วยเลย เพียงแค่บอกว่าเขายังหาตังไม่ได้ ต้าซึ่งเป็นผู้ซื้อรถเขาก็ยังติดต่อกับป้าอยู่ และปัญหาเรื่องนี้ป้าก็พยายามแก้ปัญหาอยู่ทุกวิถีทาง อย่างวันนี้ป้าก็ไปหากู้เงินโดยการจำนำรถ แต่รถยังส่งไม่หมดและรายได้ป้าก็ไม่มี เศษผ้าก็ไม่มีขายมาให้เราทำก็ต้องหยุดเย็บ เมื่อก่อนยังมีเข้ามาบ้างเศษผ้าเราก็พอหาได้แต่ตอนนี้โรงงานเขาปิด โควิด ก็เลยไม่มีเศษผ้ามาเย็บ ไปซื้อที่ไหนก็ไม่ได้ ภาระก็มีหลายอย่างเหมือนกันป้าต้องส่งรถ ถ้าไม่มีรถเราก็ขายของพวกนี้ไม่ได้ และก็เลี้ยงหลานอยู่บ้านทำงานด้วย เลี้ยงหลานด้วย หลานก็เพิ่งจะได้ 2 ขวบ รายได้บางทีก็มีเข้ามาเหมือนกันวันละ 40-50 เพราะว่ารับเปลี่ยนซิปเปลี่ยนยาง บางวันก็ไม่มีรายได้เลยเหมือนวันนี้

ก็อยากออกสื่อว่าให้ช่วยหาหนทางให้ป้ามั่งเถอะป้าเสียดายบ้านป้าไม่มีที่อยู่ป้าทำมาทั้งชีวิตบ้านหลังนี้ ป้าไม่อยากสูญเสียบ้านไป แล้วป้าจะไปอยู่ตรงไหนหลานก็ยังไม่โต จะหอบหลานไปอยู่วัดมันก็เป็นไปไม่ได้

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม