ร้องทุกข์ผ่านสื่อคดีไม่คืบ

ร้องทุกข์ผ่านสื่อคดีไม่คืบ

ร้องทุกข์ผ่านสื่อคดีไม่คืบ

จากเหตุคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายบุคคลในบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย เมื่อสอบถามไปยังตำรวจเจ้าของเรื่อง แจงว่า ได้ทำเอกสารเรียบร้อยแล้วรอเสนอ ผกก.เซ็นต์ส่งศาล จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 8 เดือนแล้วเรื่องก็ยังเงียบไร้คำตอบ ขณะที่ญาติเริ่มระแวงไม่เชื่อการทำคดีของตำรวจ ทั้งที่เห็นคนร้ายจากกล้องวงจรปิดชัดเจน ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประสพเหตุจากเหตุการณ์คนร้ายบุกทำร้ายร่างกายบุคคลในบ้านจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีใจความว่า “เหตุเกิดเมื่อ วันพุธ ที่ 23 ต.ค.2562 เวลาประมาณ 08.30 น. ที่บ้านเลขที่ 116 ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้มีนายเดชา ม่วงงาม บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายบุคคลในบ้าน ประกอบด้วย นายชาญวิทย์ แซ่ตั้ง ถูกแทงที่บริเวณหน้าท้อง 1 แผล น.ส.ทัศน์วรรณ กรีบเทศ ถูกแทงใต้ตาด้านซ้ายมีดหักติดใต้ตา และนายจักรพงษ์ ขุนชำนาญ ถูกแทงบริเวณแขนซ้าย 2 แผลและบริเวณสบักด้านซ้ายอีก 1 แผล จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.อ.ปะเหลียน เมื่อวันพุธ ที่ 23 ต.ค.2562 ในข้อหาพยายามฆ่า ทางตำรวจก็ไม่ได้มีการจับผู้ต้องหา ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าทางผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนี

หลังจากนั้นตำรวจเจ้าของคดีก็ได้เรียกสอบ ประมาณเดือนธันวาคม 2562 เจ้าของคดีได้ย้ายไปจ.ปัตตานี และทางเจ้าของคดีได้โทรมาแจ้งประมาณปลายเดือนธันวาคม ว่าได้ฝากเรื่องไว้กับ รองผกก.สอบสวน สภ.ปะเหลียนแล้ว จนผ่านไปประมาณเดือนมี.ค.2563 ได้มีการสอบถามไปทางตำรวจก็มีการบอกว่ากำลังมอบหมายงานอยู่ จนวันที่ 14 พ.ค.2563 ทางผมได้เข้าไปสอบถามความคืบหน้าของคดีว่ามีการส่งฟ้องหรือยัง ปรากฏว่าสำนวนคดีและหลักฐานในเอกสารบางส่วนได้มีการเอาไปรวมกับคดีข่มขืนที่เกาะสุกร ทางผมก็เลยงงว่าคดีต่างกันเอาไปรวมกันได้อย่างไร และได้สอบถามว่าจะขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย ทางตำรวจก็เลยนัดให้เป็นวันอาทิตย์ ที่ 17 พ.ค.2563 ทางผมเข้าไปสอบถามความคืบหน้าคดี ซึ่งทาง รองผกก.สอบสวนที่ได้รับมอบหมายได้แจงว่า ได้ทำเอกสารเรียบร้อยแล้วรอเสนอ ผกก.เซ็นต์ส่งศาล จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 8 เดือนแล้วเรื่องก็ยังเงียบอยู่” ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.ปะเหลียน เพื่อเข้าพบกับ พ.ต.อ.พูลศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ปะเหลียน ติดตามถึงความคืบหน้าของคดีดังกล่าว ทาง ผกก. แจงว่า ตำรวจเจ้าของคดีไม่อยู่เนื่องลาป่วย แต่จากการขอดูสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหานั้น ได้มีการเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา ก่อนที่จะปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมกับตั้ง 2 ข้อกล่าวหา พยายามฆ่า และพกพาอาวุธในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งขณะนี้ทางผู้กำกับสอบสวนที่เป็นเจ้าของคดียังไม่ส่งเรื่องให้กับผู้บังคับบัญชา และต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านขายของชำ บ้านเลขที่ 116 ม.8 ต.ท่าข้าม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้พบกับนายชาญวิทย์ แซ่ตั้ง ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกแทงที่บริเวณหน้าท้อง 1 แผลจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ช่วยจัดของอยู่ในร้าน แต่เนื่องจากนายชาญวิทย์เป็นผู้ป่วยทางปัญญาไม่สามารถตอบคำถามและจะไม่ยอมพูดคุยกับคนที่ไม่สนิทเพื่อที่จะเล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้



เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงน.ส.ทัศน์วรรณ กรีบเทศ และนายจักรพงษ์ ขุนชำนาญ สองสามีภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ร้องทุกข์ไปยังสื่อ ทราบว่า ทั้งคู่เดินทางไปจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งได้ทราบข้อมูลจากพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย แต่เบื้องต้นปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของอีกคนถึงแม้จะเป็นญาติกันก็ตาม โดยพยานเล่าว่า ตอนเกิดเหตุผู้ก่อเหตุ คือ นายเดชา ม่วงงาม ได้เดินเข้าไปในร้านซึ่งเป็นเคาเตอร์ที่เก็บเงินจากนั้นก็กระหน่ำแทงน.ส.ทัศน์วรรณ กรีบเทศ ถูกแทงใต้ตาด้านซ้ายมีดหักติดใต้ตา และนายจักรพงษ์ ขุนชำนาญ ถูกแทงบริเวณแขนซ้าย 2 แผลและบริเวณสบักด้านซ้ายอีก 1 แผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อก่อเหตุแล้วเดินออกมาถึงประตูเจอนายชาญวิทย์ แซ่ตั้ง ที่กำลังยืนจัดของอยู่ จึงใช้มีดแทงไปที่บริเวณหน้าท้อง 1 แผลจนได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนหลบหนีไป ซึ่งเท่าที่ทราบคดีความตั้งแต่เกิดเหตุเงียบหาย ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องนัดวันชี้แจงแต่ก็ไร้วี่แวว อย่างไรก็ตามต่อมาผู้เสียหายสามีภรรยา ได้ส่งภาพจากกล้องวงจรปิด ให้ผู้สื่อข่าว จะเห็นว่าขณะเกิดเหตุมีการชุลมุน มีการเยื้อแย่งมีดกับคนร้าย ผู้เสียหายก็ไปให้การกับพนักงานสอบสวนเรียบร้อย พร้อมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด แต่ล่วงเลยมากว่า 8 เดือน กลับเงียบ จึงยังไม่ทราบว่าคดีได้ดำเนินการไปถึงไหน หวั่นว่าเรื่องจะเงียบ ไม่สามารถดำเนินคดีกับคนร้ายได้ จึงได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวดังกล่าว


ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ตรัง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

ข่าวยอดนิยม