บิ๊กตู่ ตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกา เฉพาะกิจ พิจารณาปลดล็อกโควิด เลขาสมช.นั่งประธาน 15 พ.ค.ลุ้นผ่อนปรนระยะ 2
วันที่ 13 พ.ค. 2563 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 22/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี
ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.2563 และต่อมามีประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค.2563 นั้น
เพื่อให้การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้ง การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ดำเนินการไปโดยเป็นลำดับขั้นตอน ตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและผลการประเมินสถานการณ์ทางด้านสาธารณสุข เพื่อให้สถานการณ์กลับคืนสู่ภาวะปกติได้อย่างเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2 วรรคสอง ของคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 5/2563 เรื่องการจัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ลงวันที่ 25 มี.ค.2563
นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยมีองค์ประกอบและหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ประธาน
(2) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผบ.ทบ. รองหัวหน้าสำนักงานประสานงานกลางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รองประธาน
(3) รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกีจและสังคมแห่งชาดิมอบหมาย รองประธาน
(4) ผู้แทนสำนักงานเลขาธิการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กรรมการ
(5) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรรมการ
(6) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน กรรมการ
(7) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และสื่อสังคมออนไลน์ กรรมการ
(8) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กรรมการ
(9) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ กรรมการ
(10) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านคมนาคมและการขนส่งทั่วราชอาณาจักร กรรมการ
(11) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านมาตรการให้ความช่วยเหลือเยียวยา กรรมการ
(12) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า
กรรมการ
(13) ผู้แทนศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์และการวิจัยและพัฒนา กรรมการ
(14) ผู้แทนกระทรวงยุคิรรรม กรรมการ
(15) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรรมการ
(16) ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด กรรมการ
(17) ศาตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ อุดม คชินทร กรรมการ
(18) ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร กรรมการ
(19) นายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมการ
(20) นายสันติธาร เสถียรไทย กรรมการ
(21) รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติมอบหมาย กรรมการและเลขานุการร่วม
(22) พลตรีชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ กรรมการและเลขานุการร่วม
(23) เจ้าหน้าที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
(24) เจ้าหน้าที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
(25) เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
หน้าที่และอำนาจ
(1) ประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์ กลั่นกรอง รวบรวมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะทางวิชาการ และข้อเสนอขอภาคส่วนต่าง ๆ และจัดทำแนวทางผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในทุกห้วงระยะเวลา 34 วัน เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
(2) จัดทำร่างข้อกำหนดเพื่อผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการตาม (1) รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติสำหรับกิจการหรือกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
(3) ประสานการดำเนินการกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเชิญผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงความเห็น หรือส่งเอกสารหลักฐานใดๆที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา
(4) แต่งตั้งคณะอนุกรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
(5) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่นายกรัฐนตรีหรือศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มอบหมาย
ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ตามคำสั่งนี้เป็นที่ปรึกษาในการปฏิบัติงานของหน่วยงาน เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยหารือถึงรายละเอียดต่างๆ เพื่อเตรียมเสนอต่อที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.นี้