“ธนกร” ซัดกลับ “อนุสรณ์” ยังหลอนแบ่งสีเสื้อ จวกอย่าบิดเบือน ย้ำสิ่งที่ “ลุงตู่” ทำก็เพื่อพาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน สวน “ปิยบุตร” พ.ร.ก.ฉุกเฉินช่วยแก้ปัญหาโควิด ไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมือง
วันที่ 18 ก.ค. 2563 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอดีตโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่ตั้งขึ้นนั้น เหมือนรัฐบาลจัดงานคืนสู่เหย้าชาวนกหวีด ให้พรรคพวกได้มีงานทำอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่แท้จริงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ต้องการยืดเวลาสืบทอดอำนาจ ว่า
การตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศนั้น เนื่องจากประธานกรรมการและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศบางคนพ้นจากตำแหน่ง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งทำหน้าที่สำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูป เสนอให้ปรับเปลี่ยนฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการปฏิรูปแต่ละด้าน เพื่อประโยชน์ในการประสานงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
อีกทั้ง คณะรัฐมนตรี กำหนดให้มีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านอื่นเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อการปฏิรูปประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ อย่างที่นายอนุสรณ์กล่าวหา
นายธนกร กล่าวอีกว่า หากในหัวของนายอนุสรณ์ยังมีแต่เรื่องแบ่งสี แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ตามหลอกหลอนอยู่ก็ไม่ว่ากัน แต่อย่าบิดเบือนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นไปตามที่นายอนุสรณ์กล่าวหา อย่างไรก็ตามเชื่อว่าประชาชนเข้าใจเจตนาบริสุทธิ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ดี
ส่วนกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ออกมาโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเป็นเครื่องมือในการควบคุมจำกัดเสรีภาพของประชาชน ทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองนั้น เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีไว้สำหรับการแก้ปัญหาโควิด-19 เท่านั้น ซึ่งช่วยให้รัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างดี นายปิยบุตรไม่เคยก้าวข้ามความขัดแย้ง จมปลักแต่เรื่องสืบทอดอำนาจเผด็จการ บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ทั้งที่เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว
“ในสายตานายปิยบุตร พล.อ.ประยุทธ์ ทำอะไรก็ผิดไปหมด อยากให้นายปิยบุตรหยุดความเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งได้แล้ว ประเทศต้องการความร่วมแรงร่วมใจในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 การเคลื่อนไหวในลักษณะ 2 ขา จะนำมาซึ่งความขัดแย้งในประเทศอีก เพราะฉะนั้นขอให้เห็นแก่พี่น้องคนไทยและประเทศชาติ ใช้เวทีสภาฯในการแก้ปัญหา ดีกว่าปลุกม็อบลงถนน”
