“อานนท์ แสนน่าน“แกนนำเสื้อแดงอิสาน” ส่งกำลังใจถึง”แรมโบ้” เชื่อมั่นเป็นคนดีมีสัจจะไม่เคยทรยศใคร
19 พ.ค.63 ที่เครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น เรารักประเทศไทย ชุมชนพรสวรรค์ เทศบาลตำบลหนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่น”เรารักประเทศไทย” อดีตประธานก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย ได้ร่วมปรึกษาหารือกับประธานหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนภาคเหนือ ภาคอีสาน และ ประธานวิสาหกิจชุมชนผ่านทางวิดีโอคอลเฟอเร้นซ์ ในการ เตรียมความพร้อมอบรมและให้ความรู้เกษตรกรเกี่ยวกับการฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจช่วยเหลือเกษตรกร หลังการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19
นายอานนท์ แสนน่าน ประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ตนเองเป็นคนเสื้อแดงเคยร่วมกันต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2552 ทั้งเป็นนักวิชาการ ทั้งเป็นนักข่าวเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการทำงานของคนเสื้อแดง และก็ได้เจอและรู้จัก “พี่แรมโบ้” หรือ “คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์” มาโดยตลอดเพราะเป็นแกนนำเสื้อแดง ที่ร่วมต่อสู้ จนมาถึงการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 แกนนำเสื้อแดงก็ถูกจับกุมไปหมดไม่มีแกนนำคนไหนออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย
ตนจึงได้จัดเวทีเรียกร้องให้มีการ “ปล่อยแกนนำ” และเรียกร้องให้แกนนำที่อยู่ต่างประเทศกลับมาโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี แต่ก็ไม่เป็นผลจึงได้มีแนวคิดการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์โดยการ “เปิดหมู่บ้านเสื้อแดง” ขึ้นมาครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2553 โดยเรียกร้องขอความเป็นธรรม ในการปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดง และได้ประสานงานกับทาง “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศให้มีการ “โฟนอิน” ผ่านทางโทรศัพท์เพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในการออกมาเรียกร้องความถูกต้อง หลาย ๆ ครั้ง
แม้แต่การร่วมรำลึกและต่อสู้ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ก็ได้ออกบู๊ทเกี่ยวกับประวัติและผลงานของ “พี่แรมโบ้” สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ตลอดและต่อเนื่อง จน “พี่แรมโบ้” กลับมาอยู่ประเทศไทยและร่วมต่อสู้พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชน และ เกษตรกรที่ยากไร้ หลังเลือกตั้ง ส.ส. 3 กรกฎาคม 2554 ก็ได้ร่วมงานกับทาง “พี่แรมโบ้” ในการผลักดันงบประมาณจัดสรรช่วยเหลือเกษตรกร หาที่ทำกินให้เกษตรกร และ ส่งเสริมอาชีพต่าง ๆ พร้อมกับเรียกร้องขอให้ “เงินเยียวยา ผรท.” คนละ 225,000 บาท จนสำเร็จและอนุมัติจ่ายมาเป็นทุนให้ “กลุ่มคอมนิสต์” หรือ “อดีตสหายเก่า” จนมาเปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย” หรือ “ผรท.”
นายอานนท์ กล่าวอีกว่า ตนชื่นชมและขอยกย่องการทำงานของ “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อย่างหนักแน่นว่า เป็นคนดีมีสัจจะไม่เคยทอดทิ้งใครพร้อมทั้งคำนึงถึงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรมาเป็นอันดับต้นๆ ไม่เคยหักหลังใครแม้แต่เวทีใหญ่ช่วงการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน กรุงเทพฯ ปลายปี พ.ศ.2556 ตนนั้นถูกเบี้ยวเงินในการจัดจ้างรถยนต์ขึ้นไปกรุงเทพ จากมวลชนของ “หมู่บ้านเสื้อแดง” ทั้งภาคเหนือและภาคอีสาน แต่คนที่ยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือคนแรกก็คือพี่แรมโบ้ “คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์” เพราะเป็นคนที่จริงใจและไม่เคยเนรคุณประชาชนอย่างพวกตน
นายอานนท์ กล่าวย้ำท้ายอีกว่า จนหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมาถือได้ว่า เป็นการต่อสู้ของการเรียกร้องสีเสื้อได้จบสิ้นแล้วก่อนการเลือกตั้งตนได้ยุบ “หมู่บ้านเสื้อแดง” มาเป็น “หมู่บ้านประชาธิปไตย” และล่าสุดมาเป็น “หมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย” ก็ได้ประสานงานและปรึกษาหารือกับทาง “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ มาโดยตลอดว่า เราจะให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไร่ ชาวนา ได้อย่างไร เพราะถ้ามัวแต่จะหวังพึ่งนักการเมืองก็คงไม่ได้อะไร
อีกทั้งตนเองก็เริ่มขับเคลื่อนเรียกร้อง “ให้เกษตรกรปลูกกัญชา” และ “ให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกร” ก็ประสบความสำเร็จไปในหลาย ๆเรื่อง เพราะการช่วยเหลือจาก “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่คอยประสานงานกับหน่วยงานราชการสนับสนุนงบประมาณหลาย ๆ อย่าง จนทุกวันนี้ประชาชนบางส่วนก็มีอาชีพ มีรายได้ ช่วยเหลือครอบครัวไม่ต้องเดือดร้อน จนมาเจอสภาพของโรคไวรัสโควิด-19 ระบาด ตนจึงได้ประสานงานกับประธานภูมิภาคทั้ง 4 ภาค ของประเทศไทย มาแสดงความจำนงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ผ่านทาง “พี่แรมโบ้” คุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ให้รับทราบและช่วยเหลือในเบื้องต้นไปก่อน ไม่อยากให้ตั้งเป็นประเด็นความขัดแย้งเรื่องการแบ่งแยกสีกันอีกเลย วันนี้อยากจะให้ทุกคนคิดถึง “เรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งสำคัญใส่ร้ายป้ายสี อย่าทำตัวเป็นบ่อนทำลายกันอีกเลย ประเทศชาติประชาชนบอบช้ำมามากพอแล้ว”นายอานนท์กล่าว