ม็อบ “คณะประชาชนปลดแอก” อ่านแถลงการณ์ 3 ข้อ ภายใต้ 2 จุดยืน ไม่เอารัฐประหาร และ ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ จากนั้นประกาศยุติการชุมนุม แกนนำประกาศขอให้มวลชนกลับโดยสวัสดิภาพ ลั่นไว้เจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
คืบหน้าการชุมนุมของกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2563 เวลา 22.25 น.นายทัตเทพ เรืองประไพรกิจเสรี แกนนำกลุ่มคณะประชาชนปลดแอก ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ถึงเหตุผลของการออกมาจัดกิจกรรมชุมนุมเรียกร้อง และประกาศข้อเรียกร้องของกลุ่ม 3 ข้อ ว่า รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และสถาบันการศึกษา จะต้องหยุดคุกคามประชาชน ทั้งการคุกคามทางกายภาพ และใช้จิตวิทยา และการไปเยี่ยมบ้านหรือที่ทำงาน
รวมทั้งหยุดการดำเนินคดีกับประชาชน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการยุบสภาพ เพราะนี่คือทางออกของการเมืองไทย ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตาม เพราะเป็นทางเดียวที่ง่ายที่สุดโดยไม่มีการนองเลือด
ทั้งนี้ คณะประชาชนปลดแอก ได้เสนอโรดแมพ โดยจะต้องเริ่มจากยกเลิก รัฐธรรมนูณ มาตรา 269-272 เพื่อเอา 250 ส.ว. ออกไปจากรัฐธรรมนูญ และรัฐสภาภายในเดือนกันยายน 2563 นี้
รัฐสภาต้องแก้ไข รธน.ม.256 เพื่อให้จัดตั้ง สสร. และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน เพื่อประชาชน และเรียกร้องไปยังสภา เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญโดยต้องไม่ล็อคสเปค และถกเถียงกันได้ทุกมาตรา รวมถึงรัฐบาลต้องประกาศยุบสภา จัดตั้งรัฐบาลใหม่
อีกทั้งได้ย้ำจุดยืน 2 ข้อ คือจะต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติเด็ดขาด และไม่เอาการทำรัฐประหารไม่ว่าโดยใครก็ตาม ซึ่งหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจะออกมาต่อต้านรัฐประหาร
ทั้งนี้ยังมีอีก1ความฝัน ที่ต้องไปให้ถึงคือ ต้องการให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง จะต้องอยู่เป็นมิ่งขวัญ สถาพรภายใต้รัฐธรรมนูญได้
โดยนายทัตเทพมองว่า หากทำได้ ประเทศไทยจะมีการเมืองที่ดี ซึ่งจะทำให้การศึกษาดี ระบบสาธารณสุขดี และอำนาจจะกระจายสู่ท้องถิ่น และสมรสได้อย่างเท่าเทียม และจะไม่ถูกบังคับเกณฑ์ทหาร และถ้าการเมืองดีประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
จากนั้น แกนนำที่เคลื่อนไหวตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 2563 รวม 31 คนที่จะถูกดำเนินคดีนั้น ได้ขึ้นมาร่วมกันแถลงการณ์บนเวทีปราศรัย โดยแถลงการณ์ระบุว่า เพื่อให้รับฟังข้อเรียกร้อง โดย 1.รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชน ที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตย 2.รัฐบาลต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากเจตจำนงของประชาชน เพื่อประโยชน์แก่สาธารณชนอย่างแท้จริง3.รัฐบาลต้องยุบสภา เพื่อเป็นการเปิดทางให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกผู้แทนได้
รวมถึงย้ำ 2จุดยืนคือ 1.ต้องไม่มีการทำรัฐประหาร และ2.ต้องไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ และยังได้แสดงจุดยืนที่พูดถึง1ความฝันคือการมีระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้ระบอบรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
ซึ่งสิ่งที่เรียกร้อง สามารถเกิดขึ้นได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดต่อผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ แต่ไม่ได้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และวันนี้มาไกลจากจุดเริ่มต้นจึงขอให้ประชาชนยืนหนัดต่อสู้ไปด้วยกัน
จากนั้นเวลา 22.40น. กลุ่มคณะประชาชนปลดแอก ได้ประกาศยุติการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินแล้ว และแกนนำประกาศแจ้งมวลชนขอให้ประชาชนกลับบ้านโดยสวัสดิภาพและประกาศพบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ
อย่างไรก็ตามก่อนการประกาศยุติการชุมนุม กลุ่มคณะประชาชนปลดแอก ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้อง 3 ข้อเรียกร้อง 2 จุดยืน คือ 1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ 3.ยุบสภา ภายใต้ 2 จุดยืน ไม่เอารัฐประหาร และ ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ
ขณะที่บรรยากาศการชุมนุม ปรากฏว่าแกนนำคณะประชาชนปลดแอก สลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนเวที จี้รัฐบาลหยุดคุกคามประชาชน พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมที่เป็นสีสันและไฮไลต์ในการชุมนุมครั้งนี้ คือ การฉายเลเซอร์ใส่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้วยคำว่า ให้จบที่รุ่นเรา และ ผนงรจตกม และขีดเส้นตายเผด็จการ
รวมถึงการสลับกันร้องเพลงบนเวที และให้กลุ่มผู้ชุมนุมร่วมกันเปิดแฟลชจากมือถือพร้อมกัน จนเกิดไฟส่องสว่างไปทั่วบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กรุงมหานคร
จากนั้น แกนนำคณะประชาชนปลดแอก ประกาศขอให้มวลชนเดินทางกลับที่พักโดยสวัสดิภาพ และเอาไว้เจอกันใหม่ เมื่อชาติต้องการ และสิ้นสุดการชุมนุม ปราศจากความรุนแรง