ดร.รัฐวิทย์ ……งัดกลศึก กลยุทธ์ หลังชนฝา สู้สุดฤทธิ์ ช่วยชาวเกษตรกรจันทบุรี นำเข้าแรงงานถูกต้องตามกฎหมายเก็บลำไยส่งออกต่างประเทศ รวม 3 พลัง ต่อสู้กู้วิกฤตเศรษฐกิจถดถอย เสนอแผนเผชิญเหตุแพร่ระบาดไวรัส
……….ถือว่าเป็นประเด็นร้อนแรงสุด ๆในรอบปีของชาวโลก เพราะเหตุแห่งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 ถึงกับต้องปิดประเทศ โดยเฉพาะชาว อ.โป่งน้ำร้อน อ.สอยดาว จังหวัดจันทบุรี ที่กำลังแสวงหา “แสงสว่างปลายอุโมงค์” ต่อเมื่อผลผลิตของลำไยกำลังเบ่งบานใกล้สุกงอม มองเห็นรายได้เข้ามาเยียวยาชาวเกษตรกร และภาพรวมของเศรษฐกิจ แต่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ว่า รัฐบาลจะอนุมัติให้มีการนำเข้าแรงงานจากประเทศกัมพูชาหรือไม่ในท่ามกลางการบริหารความเสี่ยง ถ้าตัดสินใจผิดพลาด มีการแพร่ระบาดรอบสอง นั่นหมายถึงความหายนะของประเทศจะหวนคืนกลับมายากที่จะฉุดรั้งไว้ได้
……….ไม่ได้หยุดนิ่ง 3 พลังยักษ์ใหญ่ของจันทบุรี นายพงษ์พัฒน์ วงศ์ตระกูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายแพทย์ อภิรักษ์ วิสุทธิ์อาภรณ์ สาธารณสุขจังหวัด ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เข้าชี้แจงถึงความจำเป็นเร่งด่วนการนำเข้าแรงงานต่างด้าวเก็บผลผลิตลำไยนอกฤดูกาล ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้สร้างมาตรฐาน วางกรอบการทำงานไว้ได้อย่างรัดกุมและปลอดภัย ส่งผลให้คณะทำงานฝ่ายเลขาธิการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 พอใจในมาตรการที่ทางคณะจันทบุรี นำเสนอ โดยการประสานงานของ คุณชรัตน์ เนรัญชร รีบสรุปข้อมูลส่งให้นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจ อนุมัติให้นำเข้าแรงงานได้ในเร็ววันนี้
……….ทางเลือกที่ 1 ปัญหาที่ทุกฝ่ายหวั่นวิตก เรื่องค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ให้คนงานจำนวนมาก ผู้ประกอบการธุรกิจ หรือคนงานต้องออกค่าใช้ในราคาแพง ไม่คุ้มกับการขายแรงงานระยะสั้น ๆ คงไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ต่อเมื่อปัจจุบันสามารถใช้วิธีการตรวจหาเชื้อโควิด 19 โดยการตรวจ”น้ำลาย”สามารถตรวจได้ครั้งละหลายคน หรือจัดเป็นกลุ่ม ถ้ากลุ่มใดมีผลเป็นบวก ก็กลับมาตรวจกลุ่มเป้าหมายเสี่ยงซ้ำใหม่ให้อีกครั้ง เพื่อความชัดเจน วิธีนี้จะเป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาลดค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อให้แรงงานต่างด้าวได้ คณะทำงานต้องนำวิธีการนี้เสนอให้หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องสาธารณสุข ทราบพร้อมบูรณาการ การตรวจให้ชัดเจน ควบคู่ไปกับการประหยัดด้วย
……..ทางเลือกที่ 2 ถ้ารัฐบาลวิเคราะห์ และพิจารณาแล้วว่าไม่สมควรบริหารความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด รอบที่ 2 นั่นหมายถึงชาวเกษตรกรปลูกลำไย ล้งลำไย 80 ล้ง จะต้องปล่อยทิ้งให้ผลผลิตเสียหาย ทิ้งรายได้มหาศาล ในขณะที่ยังต้องลุ้น ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา จะต้องรวมพลังกันอีกครั้ง เพื่อปรับกลยุทธ์ใหม่ให้กับชาวเกษตรกร ชาวสวนลำไย ด้วยการจัดทำแผนการท่องเที่ยวรองรับการระบายขายผลผลิตลำไย ให้คนไทยด้วยกัน เช่น กินลำไยไร้โควิด อิ่มละ 50 บาท ซื้อกลับบ้าน กก.ละ 35 บาท ก็จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ดีกว่าจะปล่อยทิ้งให้เน่าเสียหรือมีค่าเป็นสูญ คาดว่าเมื่อประชาสัมพันธ์ไปแล้ว คนไทยทั่วประเทศจะแห่มาเมืองจันทบุรี เพื่ออุดหนุน เยียวยาให้คนจันทบุรี อย่างแน่นอน
“ยังมีความเชื่อในศักยภาพของ 3 พลังยิ่งใหญ่ จะสามารถคลี่คลายปัญหาให้ชาวเกษตรกรสวนลำไยได้”
มังกร บูรพา
