เปิดปมปริศนา ตร.พาพี่เตี้ย มช.ออกข้างนอกอ้างถูกล้อหลังทับตาย
วันที่ 18 พ.ค.2563 พบคนพา พี่เตี้ย มช. ออกไปข้างนอกเป็นตำรวจ เปิดปากเล่าถึงสาเหตุการตาย แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ หลังพบมีพิรุธเพียบ
จากกรณีพบซาก พี่เตี้ย มช. หมาขวัญใจ นศ.ม.เชียงใหม่ ถูกทิ้งในป่าข้างทาง บริเวณถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ต.ช่างเคี่ยน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 18 พ.ค.2563 ทางด้านชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้เบาะแสภาพจากกล้องวงจรปิดชายต้องสงสัยที่นำตัว พี่เตี้ย ออกจาก มช.ไป โดยชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจยย.เข้ามาใน มช. เมื่อเวลา 20.34 น.ของวันที่ 3 พ.ค. และเรียกพี่เตี้ยขึ้นรถขี่ออกไป กระทั่งพบซากถูกทิ้งไว้ที่ทิ้งริมถนนพระนาง หลังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ขณะที่ผลชันสูตรพบว่าเจ้าเตี้ยร่างกายถูกกระแทกอย่างแรง คาดว่าจะถูกรถชนตาย
ด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนชัดเจนว่ามีคนนำพี่เตี้ย ออกจาก มช. เมื่อเวลา 20.34 น.ของวันที่ 3 พ.ค. และชายดังกล่าวก็ได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกแล้ว โดยให้การว่าเป็นผู้นำพี่เตี้ยออกไปจริง และเมื่อมีข่าวตามหาก็เกิดความกังวลใจ จึงได้เข้าพบกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก ตามคำให้การของชายที่นำพี่เตี้ยออกไปทราบว่า เดิมทีเป็นคนรักสัตว์ และสงสารที่พี่เตี้ยไม่ได้ออกไปไหน จึงขี่รถเข้าไปหาคิดจะพาไปเที่ยว จึงนำพี่เตี้ยนั่งรถเล่น ออกไปนอกรั้ว มช. จู่ๆ พี่เตี้ย ก็กระโดดลงจากรถขณะขับขี่ ทำให้ล้อหลังทับตายทันที ด้วยความตกใจจึงนำซากไปโยนทิ้งข้างทาง พร้อมโกยใบไม้กลบ
จากนั้นก็ได้มาพบเป็นข่าวและติดตามข่าวตลอด จนตัดสินใจมาพบตำรวจ ขณะที่ พ.ต.ท.จักรกรี วงค์คำ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ช้างเผือก เปิดเผยว่า วานนี้ (17 พ.ค.) ตำรวจได้เรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ เบื้องต้นให้การว่า เคยเรียนที่นี่และมีความผูกพันกับพี่เตี้ย จึงตั้งใจพาไปเที่ยว แต่เมื่อถึงจุดที่ใกล้กับจุดที่พบซาก พี่เตี้ยได้กระโดดลงจากรถจยย.แต่ไม่พ้น ทำให้ล้อหลังของรถทับพี่เตี้ยจนตาย จึงได้นำซากไปทิ้งที่ป่าละเมาะและนำใบไม้ปิดไว้ ก่อนจะขี่รถจยย.กลับบ้านพักไป ผู้ต้องสงสัยยืนยันว่า ไม่มีเจตนาทำร้ายสุนัข เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องสงสัยรายนี้ เพราะคำให้การของทั้ง 2 ฝ่าย ยังขัดแย้งกับพยานหลักฐาน จึงต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งนำรถจยย.ของผู้ต้องสงสัยมาให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่เมื่อสุนัขกระโดดลงจากรถแล้วจะถูกล้อหลังทับจนตาย ขณะเดียวกันก็ต้องพิสูจน์ให้ชัดเจนด้วยว่า ใครเป็นเจ้าของพี่เตี้ย ซึ่งจะเป็นผู้เสียหายในคดีหากมีการตั้งข้อกล่าวหา เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องลงบันทึกประจำวัน ตั้งแต่วันที่พบซากพี่เตี้ยเมื่อวันที่ 7 พ.ค.แล้ว แต่การจะรับเป็นคดีก็ต้องสืบสวนหาพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อน
สำหรับผู้ต้องหาที่พาเจ้าเตี้ย ออกจากมช. ไปทราบคือเป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ท. สังกัด ตชด. ซึ่งเจตนาที่แท้จริงที่พาพี่เตี้ยออกไปยังคลุมเครือ โดยตำรวจไม่เชื่อคำให้การที่ว่ารักหมา พาหมาออกไปเที่ยว เพราะทิศทางการเดินทางเหมือนเข้าซอย ไปในทางเปลี่ยว และรถที่พาพี่เตี้ย ไปคือรถจยย.ฮอนด้าคลิก ปี 2008 ซึ่งเป็นรถต่ำ ไม่มีทางที่จะทับหมาที่โดดลงจากรถได้ อีกทั้งรถที่ตำรวจดังกล่าวใช้ประจำก็ใส่ป้ายทะเบียนทุกวัน แต่วันที่มาพาพี่เตี้ยไปกลับถอดป้ายทะเบียนออก จึงเป็นเหตุน่าสงสัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำรถไปตรวจสอบที่กองพิสูจน์หลักฐานเพิ่มเติม เพื่อจำลองเหตุการณ์ และหาความเป็นไปได้ขอเรื่องราวที่เกิดขึ้น ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่วอชด็อก ได้เข้าให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช้างเผือกเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก และพนักงานสอบสวน รับฟังข้อมูล โดยตำรวจจะได้เรียก ผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งแฟนของผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าเป็นนักศึกษาด้วยมาสอบปากคำอีกครั้ง เพื่อให้กระจ่างชัด ทางตำรวจยืนยันจะดำเนินการตามหลักฐานพยานทีได้มา
เพจ พี่เตี้ย มช. / วอชด็อก ไทยแลนด์