ประมงชายฝั่งเมืองคอนเดือดเตรียมฝ่าโควิดบุกศาลากลางเรียกร้องความเป็นธรรม-ใช้ “สุราษฏร์โมเดล”แก้ปัญหารื้อคอกหอยทั้งหมด
(1 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านในจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างกลุ่มที่อ้างว่าเป็นกลุ่มนักอนุรักษ์ 11 กลุ่ม ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกรมประมงหลายล้านบาทให้ซื้อไม้ไผ่มาปักเป็นแนวเขตตลอดแนวชายฝั่งอ่าวนครศรีธรรมราชพื้นที่นับแสนไร่ อ้างเป็นการสร้างบ้านปลาและเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ และยังห้ามผู้ใดเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตหวงห้ามที่ปักปันแนวเขต กับกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านทั่วไปซึ่งเป็นส่วนใหญ่ที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากพื้นที่การทำมาหากินลอดน้อยลง กีดขวางทางเดินเรือ จนมีการร้องเรียนศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช และศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าไม่ได้เป็นการสร้างบ้านปลาแต่เป็นการใช้งบประมาณหลายล้านบาทในการซื้อไม้ไผ่มาปักปันตลอดแนวชายฝั่งทะเล และทำการเลี้ยงหอยแครง ซึ่งเป็นการหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง เป็นการริดรอนเสรีภาพในการประกลออาชีพ ไม่เสมอภาคไม่เป็นธรรมกับชาวประมงพื้นบ้านส่วนใหญ่
นายปรีชา แก้วกระจ่าง ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า หลังจากที่ตนรวบรวมเอกสารหลักฐานพร้อมภาพถ่ายและรายชื่อชาวประมงพื้นบ้านจำนวนหนึ่งเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธิ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2563 จนล่าสุดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาชาวบ้านพันคนจากหลายอำเภอนับแห่ไปงมหอยในพื้นที่แปลงหอยปากอ่าวปากพูนเนื้อที่นับหมื่นไร่ โดยเจ้าหน้าที่ประมงและกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นนักอนุรักษ์ไม่สามารถทัดทานห้ามปรามชาวบ้านได้ จึงแก้หน้าโดยการนำแผ่นป้ายไวนิลติดประกาศข้อความว่า “เป็นแปลงอนุรักษ์ปันสุข”ห้ามจับสัตว์น้ำโดยเครื่องมือผิดกฎหมายทุกชนิด” หวังเอากระแสโควิด-19 มาแก้หน้า
“ในขณะนี้ชาวประมงพื้นบ้านทั้ง 3 อำเภอประกอบด้วย อ.เมือง ท่าศาลา และ อ.ปากพนัง ได้ส่งสัญญาณว่าจะรวมตัวกันครั้งใหญ่ฝ่า พ.ร.ก.โควิด -19 บุกศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยหากรัฐบาลจะดำเนินคดีก็ให้ดำเนินคดีกับชาวบ้านที่มาร่วมชุมเรียกนร้องหลายพันคน เพราะตั้งแต่เกิดปัญหาขึ้นผู้ใหญ่ในระดับจังหวัดลอยตัวไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เลย ในขณะที่ทางจังหวัดสุราษฏร์ธานีมีการตรวจสอบและสั่งรื้อคอกหอยหมดแล้วเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์ในการทำกินในทุกตารางนิ้วของชายฝั่งทะเล อย่างไรก็ตามตนได้ขอนร้องให้ชาวประมงชายฝั่งทั้งหมดยุติความคิดที่จะฝ่า พ.ร.ก.โควิด-19 เอาไว้ก่อนเพื่อรอคำสั่งจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าจะห้ามชาวบ้านเอาไว้ได้สักกี่วัน หากยับยั้งไม่ไหวเมืองคอนคงไปกันคนละทิศละทางแน่”
ทางด้านนายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงชายฝั่งปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าการนำไม้ไผ่มาปักในทะเลกันพื้นที่นับแสนไร่ใน 3 อำเภอไม่ใช้บ้านปลาตามที่อ้างแต่เป็นการกันพื้นที่ทำคอกเลี้ยงหอยเหมือนที่ จ.สุราษฏร์ธานี โดยนำเอากลุ่มอนุรักษ์ 11 กลุ่มมาบังหน้าเป็นการใช้ยุทธการ “ฆ่าควายละลายงบประมาณ” หลังจากชาวบ้านนับพันคนแห่งมหอยแครงในแปลงที่ปักปันอ่าวปากพูน จนทางประมงและกลุ่มอนุรักษ์ไม่สามารถห้ามได้เพราะชาวงบ้านมีจำนวนมาก จึงแก้หน้าโดยการนำแผ่นไวนิลมาติดว่า เขตอนุรักษ์พันธ์สัตว์น้ำอ่าวปากพูน ห้ามใช้เครื่องมือผิดกฎหมายทุกชนิดจับสัตว์น้ำและข้อความ“แหล่งอนุรักษ์ปันสุข” แร่เจ้าของตัวจริงไม่พอใจออกมาโวยวายข่มขู่คุกคามตนแลเภรรยา รวมทั้งนายปรีชา แก้วกระจ่าง ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ
“เจ้าของตัวจริงชื่อ “นายทอน” โทรศัพท์ไปดุด่า ข่มขู่คุกคามนางราตรี ดวงดี ภรรยาของตนที่บ้านโดยความโกรธแค้นว่าไม่สามารถคุมตนได้ ปล่อยให้ตนออกมาเปิดโปงการทำคอกหอย เขายอมรับชัดเจนว่าคอกหอยของกู หน้าบ้านกู ใครจะยิ่งใหญ่มาจากไหนไม่สน เขายอมรับชัดเจนว่าแปลงคอกหอยอ่าวปากพูนเนื้อที่นับหมื่นไร่เป็นของเขา ที่อ้างว่าเป็นการดำเนินการของกลุ่มอนุรักษ์จึงฟังไม่ขึ้นและนายทอนยังด่านางราคาอย่างสุดหยาบคาย คนที่ด่าผู้หญิงเพศแม่แบบนี้เรียกว่า “ไอ้หน้าตัวเมีย” ตนและนางราตรี ภรรยาจะรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดกีกับนายทอนภทายในวันสองวันนี้ และเรียกร้องให้ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รมช.เกษตร ฯหรือนายกรัฐมนตรีเร่งมีคำสั่งรื้อคอกหอยตลอดแนวชายฝั่งทั้งหมด และชาวประมงชายฝั่งจะนัดหมายยกขบวนเข้างมหอยในคอกเลี้ยงหอยในจุดอื่น ๆ ทั้ง 3 อำเภอ บริเวณอ่าวปากพยิง อ่าวปากพูน ปากดพญา-ท่าซัก ,ปากนคร ,ท่าไร่, บางควาย ,คลองน้อย และแหลมตะลุมพุก ตามลำดับ” นายมาโนช กล่าวในที่สุด.
ไพฑูรย์ อินทศิลา / กัญญาณัฐ เพ็ญสวัสดิ์ นครศรีธรรมราช
