ล้างไพ่!!ผู้ว่าฯเมืองคอนประกาศงัดกฎหมายล้างไพ่บ้านปลา,คอกหอยชายฝั่งทะเลเมืองคอน-เริ่มต้นใหม่กวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมายเด็ดขาด
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 15 มิ.ย.2563 ที่ห้องปฏิบัติการผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช นาวา เอกวรรณะ เกื้อทิพย์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือ ศรชล.จ.นครศรีธรรมราช นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมด้วยนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช นายปรีชา แก้วกระจ่าง ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐจังหวัดนครศรีธรรมราช และตัวแทนกลุ่มประมงชายฝั่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมประชุมหารือมาตรการการแก้ไขปัญหาผลกระทบและความเดือดร้อนของชาวประมงชายฝั่งในพื้นที่อ่าวนครศรีธรรมราช ที่มีปัญหาเนื่องจากกรมประมงได้สนับสนุนงบช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุปาบึก โดยมีกลุ่มประมงจำนวน 11 กลุ่มจากจำนวนที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 30 กลุ่ม ทำการปักไม้ไผ่กลางทะเลอ้างเป็นบ้านปลาและทำคอกเลี้ยงหอยรวมพื้นที่นับแสนไร่ ส่งผลทบต่อการทำประมงชายฝั่งตามวิถีดั่งเดิมหลายชนิดไม่สามารถประกอบอาชีพประมงชายฝั่งได้ตามปกติ
โดยนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้นายมาโนช ดวงดี นายกสมาคมประมงปากพนัง ตัวแทนประมงชายฝั่งชี้แจงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยนายมาโนช กล่าวว่ากรมประมงได้อนุมัติงบประมาณสนับสนุนชาวประมงชายฝั่งให้ดำเนินการในหลาย ๆ โครงการด้านการพัฒนาส่งเสริมอาชีพ ด้านการพัฒนาอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมง ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นต้น ในจำนวนนี้มีอยู่อย่างน้อย 11 กลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มอนุรักษ์ดำเนินการโครงการบ้านปลา โดยซื้อไม้ไผ่จำนวนมากมาปักในแนวชายฝั่งทะเลลักษณะปักปันแบ่งพื้นที่และทำการเลี้ยงหอยแครงรวมพื้นที่นับแสนไร่ เน้นบริเวณปากอ่าวต่าง ๆ นับ 10 แห่ง โดยห้ามชาวประมงชายฝั่งอื่น ๆ เข้าไปประกอบอาชีพในพื้นที่ปักปัน ในบางจุดยังมีการนำไม้ซุกขนาดเล็กปักไว้ใต้น้ำ อ้างว่าเพื่อป้องกันกลุ่มเรือประมงคราดหอยเข้าไปในพื้นที่ ชาวประมงที่ฝ่าฝืนจะถูกข่มขู่คุกคาม จับกุม ตรวจยึดสัตว์น้ำของกลาง ชาวประมงชายฝั่งมีพื้นที่ทำกินน้อยลง และยังกีดขวางทางน้ำ ทางเดินเรือจนเกิดอุบัติเหตุเรืองประมงขนาดเล็กชนแนวไม้ไผ่และตอไม้ใต้น้ำเป็นประจำ โดยการดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย จึงขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินการโครงการในลักษณะดังกล่าว และขอให้ชาวประมงพื้นที่สามารถเข้าไปทำประมงได้ในทุกพื้นที่เพราะเป็นที่สาธารณะประโยชน์และใช้งบประมาณของแผ่นดินมาดำเนินการทั้งหมด
ในขณะที่ตัวแทนกลุ่มชาวประมงที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มอนุรักษ์ อ้างว่าการทำบ้านปลาและคอกเลี้ยงหอยทำให้พื้นที่อุดมสมบูรณ์และมีสัตว์น้ำเพิ่มมากขึ้น การห้ามเข้าทำประมงในพื้นที่เนื่องจากหอยที่ปล่อยยังมีขนาดเล็ก หากหอยตัวโตก็จะอนุญาตให้ทุกคนเข้าทำประมงได้แต่ต้องไม่ใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ทำให้ทั้งสองฝ่ายแสดงความคิดเห็นตอบโต้กันอย่างดุเดือดร้อน และพยายามงัดเอาพยานหลักฐานมากมายืนยันกันในที่ประชุมจนนายศิริพัฒ พัฒกุล ต้องให้ทั้งสองฝ่ายยุติการปะทะคารมกัน ทางด้านนาวาอากาศเอกวรรณะ เกื้อทิพย์ ศรชล.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การให้ข่าวแก่สื่อมวลชนของนายมาโนช ในบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยเฉพาะที่อ้างว่าเจ้าหน้าที่ ศรชล.ขัดขวางและข่มขู่คุกคามไม่ให้เดินทางเข้ายื่นร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งความจริงเจ้าหน้าที่และตนเดินทางไปพบชาวประมงพื้นบ้านที่จะเดินทางเข้าพบผู้ว่า ฯเพื่อชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนและให้คำแนะนำเท่านั้น ส่วนที่ไปพบนายมาโนช ที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคในวันที่ 12 มิ.ย.2563 นั้นได้พบนายมาโนช เดินออกมาจากสำนักงานเจ้าท่า ฯ ก็พูดคุยกันแค่ 5-10 นาทีไม่ได้มีการขัดขวางหรือข่มขู่กดดันใด ๆ ทางด้านนายศิริพัฒ พัฒกุล ได้กล่าวว่า ทั้งในส่วนเจ้าหน้าที่และกลุ่มชาวประมงอาจจะมีความรู้สึกแตกต่างกัน ไม่เข้าใจกัน จึงอยากให้ทุกฝ่ายมีสติในการร่วมกันแก้ไขปัญหาและเอาเป็นว่าเรื่องที่แล้วมาทั้งหมดขอให้เลิกแล้วต่อกันไหรือล่างไพ่ใหม่ทั้งหมดก่อนมาเริ่มต้นทำในสิ่งที่ถูกต้องกันใหม่ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถทำมาหากินร่วมกันได้อย่างสันติสุขบลนพื้นฐานของกฎหมายและความถูกดต้องเป็นธรรม เพื่อไม่ให้เรื่องบานปลายรุนแรงไปมากกว่านี้
ในที่ประชุมนายมาโนช ดวงดี ตัวแทนประมงพื้นบ้าน ได้ยื่นข้อเสนอ 4 ข้อให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเร่งแก้ไขประกอบด้วย การขอให้มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณมาปักปันพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่ง การใช้ไม้ไผ่บ้านปลา ,การแก้ไขปัญหาเครื่องมือประมงผิดกฎหมายและการบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยติดตามความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าเรือตรวจการณ์ประมงขับเรือตรวยจการณ์ไล่ชนตนเองและภรรยาหวังเอาชีวิต ผ่านมา 3 ปีไม่มีความคืบหน้าใด ๆ นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวยืนยันกับทุกฝ่ายถึงมาตรการและแนวทางที่ทางจังหวัดได้กำหนดไว้เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทั้งในกรณีของบ้านปลา การทำคอกเลี้ยงหอย การใช้กฎหมายด้านประมง และของกรมเจ้าท่า เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับนายทุน/กลุ่มทุนที่กระทำผิดกฎหมาย เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าการทำบ้านปลา และปักแนวเขตพื้นที่เลี้ยงหอยเป็นโครงการขนาดใหญ่ มีจะมีประโยชน์กับชาวประมงบางกลุ่มบางพื้นที่ แต่เป็นการดำเนินการที่ผิดกฎหมายของกรมเจ้าท่า และส่งผลกระทบกับชาวประมงชายฝั่งอื่น ๆ จึงไม่สามารถทำได้ หากจะมีงบประมาณเพื่อดำเนินการต่อหรือเพิ่มเติมก็ขอให้ยุติไว้เพียงแค่นี้ เนื่องการปักปันล่วงล้ำแนวจะต้องได้รับความเห็นชอบหรืออนุญาติจากกรมเจ้าท่า ส่วนจะมีการรื้อถอนอย่างไร เมื่อไหร่หรือไม่นั้นทางเจ้าท่า ฯประมง , ศรชล. และ ทส.จ.ต้องลงไปตรวจสอบว่าจะรื้อถอนจุดไหนหรือคงไว้ในส่วนไหนบ้าง หากเป็นการดำเนินการของชาวบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ให้เข้าไปแนะนำหรือว่ากล่าวตักเตือน แต่หากเป็นการทำเป็นขบวนการใหญ่หรือโครงการใหญ่ส่งผลกระทบต่อผู้อื่นแบบนี้ยอมไม่ได้จะต้องไม่มีในทะเลอีกต่อไป ในขณะที่การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนนั้น จะนำแนวทางของกลุ่มอนุรักษ์ประมงพื้นบ้านมาผนวกกับแนวปฏิบัติตามกฎหมายของกรมเจ้าท่า และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างเท่าเทียมและถูกต้องเสมอภาคและเป็นธรรม พร้อมทั้งจะได้กำชับนายอำเภอในพื้นที่ชายฝั่งทะเลทุกอำเภอเพื่อเร่งลงพื้นที่ ติดตาม ตรวจสอบ พร้อมทั้งเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งในแต่ละพื้นที่ด้วย การดำเนินการทุกอย่างจะต้องมีเจ้าภาพรับผิดชอบต่อไปนายอำเภอจะต้องรับผิดชอบส่วนจะร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือผู้นำท้องที่ท้องถิ่นอื่น ๆ ก็ว่ากันไป โดยตนจะเป็นผู้กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดอีกชั้นหนึ่ง สำหรับเรื่องคดีที่เจ้าหน้าที่นายมาโนช แจ้งความว่าถูกเจ้าหน้าที่เรือตรวจการณ์ประมงไล่ชนนั้นทราบว่าคดีดำเนินการไปตามขั้นตอนในขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของชั้นอัยการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในจำนวน 11 กลุ่มอนุรักษ์ที่จัดซื้อไผ่มาทำบ้านปลาและปักปันแนวเขตเลี้ยงหอยนั้น มีบางจุดที่ปักไม้ไผ่ในระยะประชิดเข้าลักษณะบ้านปลาเกิดประโยชน์จริง เช่น ต.แหลมตะลุมพุก 100 ไร่ และบริเวณปากนคร และปากพญา-ท่าซัก แต่ในจุดอื่น ๆ ปักในระยะห่างเป็นบริเวณกว้างลักษณะการปักปันกำหนดแนวเขตอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ได้เกิดประโยชน์ในการเป็นแหล่งที่พักอาศัย แพร่ขยายพันธ์ของสัตว์น้ำได้เลย หวังในเรื่องการเลี้ยงหอยมากกว่า และมีอยู่บางจุดที่ชาวประมงพื้นบ้านสงสัยว่ามีนายทุนแอบสอดไส้ดำเนินการอยู่ด้วยหรือไม่ เช่น พื้นที่ชิดแนวชายฝั่งปากนคร และพื้นที่จาก ต.ปากพูน-ปากพยิง ติดกับแนวเขตน่านน้ำของ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงอยากให้ผู้ว่า ฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย.
ไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
15 มิ.ย. 2563